
ปัจจุบันหนึ่งในอาการยอดฮิตของกลุ่มวัย 40+ คงจะหนีไม่พ้น “โรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูก” และ “ข้อ” ไม่ว่าจะเป็นภาวะกระดูกพรุน ข้อเข่าอักเสบ ข้อเสื่อม หรือการใช้งานผิดท่าจนเกิดอาการข้อเคล็ดจนกระทั่งถึงการหกล้ม เป็นเรื่องธรรมชาติที่กระดูกจะเริ่มเสื่อม และบางลงเมื่ออายุมากขึ้นถึงวัย 40+ ตลอดจนวัยทองหรือผู้สูงวัย เนื่องจากร่างกายมีการสูญเสียแคลเซียมที่สะสมในกระดูก แม้ว่าจะไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดในระยะสั้น อย่างไรก็ตามสามารถเพิ่มความเสี่ยงทำให้กระดูกแตกหรือหักจนเดินไม่ได้เช่นกัน วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำวัย 40+ ทั้งหลายเกี่ยวกับสารอาหาร หรืออาหารเสริมที่สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคข้อและกระดูกดังกล่าวได้ ว่าแล้วอย่ารอช้า มาดูกันเลยดีกว่าค่ะ
1. แคลเซียม (Calcium)
แคลเซียม (Calcium) สารอาหารสำคัญที่ช่วยในการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อและกระดูก มีส่วนช่วยให้ทั้งกล้ามเนื้อ กระดูกและฟันมีความแข็งแรง ซึ่งนอกจากแคลเซียมแล้วก็รวมถึงวิตามินดี ซึ่งมีประโยชน์ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรงเช่นเดียวกัน ร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถที่จะสังเคราะห์แคลเซียมหรือวิตามินดีได้เอง จึงจำเป็นต้องได้รับสารอาหาร ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เนื่องจากการรับประทานอาหารได้น้อย ทานไม่ลง การไม่ค่อยได้ดื่มนม/แพ้นม รวมถึงการไม่ได้รับประทานปลาเล็กปลาน้อยซึ่งเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่มีสุขภาพฟันไม่แข็งแรง หลังจากอายุ 40 ปี มวลกระดูกจะค่อย ๆ ลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น สิ่งที่เราทำได้ คือ ดูแลให้ความหนาแน่นของมวลกระดูกนั้นลดลงอย่างช้าที่สุด เพื่อให้กระดูกยังมีความแข็งแรงและห่างไกลจากโรคกระดูกบางและกระดูกพรุนมากที่สุด เมื่อร่างกายได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสม กระดูกมีความแข็งแรง ข้อเข่าก็จะแข็งแรงตามไปด้วย นอกจากนี้แคลเซียมยังมีประโยชน์กับฟัน การแข็งตัวของเลือด การเต้นของหัวใจ รวมถึงการทำงานของกล้ามเนื้ออีกด้วย
ผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมสามารถแบ่งออกได้หลายชนิด มีจำหน่ายทั้งในรูปแบบที่เป็นเม็ดฟู่ ชนิดเม็ด และชนิดแคปซูล โดยอยู่ในรูปของเกลือของแคลเซียมชนิดต่าง ๆ แคลเซียมที่จำหน่ายในท้องตลาดส่วนใหญ่เป็นแคลเซียมที่ได้จากการสังเคราะห์ทางเคมี ทำให้หลายคนกังวลในเรื่องของสารตกค้างที่อาจเกิดขึ้นได้ นวัตกรรม TruCal® เป็นนวัตกรรมแคลเซียมใหม่ที่ผลิตจากแหล่งน้ำนมธรรมชาติ ช่วยตอบโจทย์แก้ปัญหาสารเคมีตกค้าง ช่วยเพิ่มการดูดซึมของแคลเซียม และเพิ่มแร่ธาตุอื่น ๆ ตามที่ร่างกายต้องการ TruCal® เป็นแหล่งแร่ธาตุสำคัญหลายชนิดที่ร่างกายต้องการนอกเหนือจากแคลเซียม ได้แก่ ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม โพแทสเซียม สังกะสี และทองแดง ซึ่งมีความสำคัญกระบวนการซ่อมแซมกระดูก ส่งผลให้ TruCal® ช่วยเพิ่มความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูกได้มากกว่าการรับประทานแคลเซียมเดี่ยว ๆ ตามท้องตลาดทั่วไปค่ะ
2. สารสกัดจากงาดำ
ในเมล็ดงาดำมีสารเซซามิน ซึ่งสารนี้ช่วยยับยั้งการพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดที่จะเปลี่ยนไปเป็นเซลล์สลายกระดูกซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน นอกจากนี้ ยังช่วยยับยั้งการอักเสบของเซลล์และเนื้อเยื่อต่าง ๆ และยังช่วยฟื้นฟูสภาพเซลล์ที่เสื่อม และยับยั้งการเสื่อมสลายของกระดูกอ่อน อันเป็นสาเหตุของโรคข้อเสื่อมได้อีกด้วย งาดำมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย ที่เหมาะสำหรับวัย 40+ ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม สังกะสี เหล็ก ทองแดง ฟอสฟอรัส และวิตามินบี ดังนั้น นอกจากงาดำจะมีสรรพคุณยับยั้งการเกิดเซลล์สลายกระดูก ช่วยลดอักเสบแล้ว ยังช่วยเสริมแร่ธาตุในร่างกายอีกด้วย
3. คอลลาเจน
คอลลาเจนหลายคนเข้าใจว่ามีดีแค่ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง แต่ทราบหรือไม่ว่าคอลลาเจนยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและข้อได้ด้วย คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบของกระดูก กระดูกอ่อน และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ช่วยให้การเคลื่อนไหวดีขึ้น ข้อต่อต่าง ๆ ทำงานได้ไหลลื่นเป็นปกติ ลดการติดขัดของเส้นเอ็นระหว่างการเคลื่อนไหว ตามปกติแล้วร่างกายของเราสามารถสร้างคอลลาเจนได้เองตามธรรมชาติ แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะวัย 40+ ความสามารถในการสร้างคอลลาเจนจะลดลง คอลลาเจนใต้ชั้นผิวยังถูกทำลายได้ง่ายกว่าปกติ ทั้งจากแสงแดด มลภาวะ ความเครียด หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ หากเราปล่อยไว้ไม่เติมคอลลาเจนให้ร่างกาย สิ่งที่ตามมา คือ การเคลื่อนไหวจะติดขัด กระดูกอ่อนจะค่อย ๆ เสื่อมสภาพ และกลายเป็นโรคกระดูกพรุนหรือโรคข้อเสื่อมได้ในที่สุด
คอลลาเจนสามารถแบ่งออกได้มากกว่า 20 ชนิด แต่ชนิดที่มีความสำคัญกับกระดูกและข้อของเรา คือ คอลลาเจนชนิดที่ 2 หรือคอลลาเจนไทพ์ทู (Collagen type II) ช่วยในการสร้างกระดูกอ่อน ช่วยซ่อมแซมข้อต่อที่มีความเสียหายตามอายุที่เพิ่มขึ้น คอลลาเจนไทพ์ทูก็สามารถแบ่งย่อยออกได้หลายประเภทตามความสามารถในการดูดซึม โดย “ยูซีทู” (Undenatured Collagen Type II; UC-II) เป็นคอลลาเจนชนิดที่มีประโยชน์กับข้อต่อและกระดูกมากที่สุด สามารถดูดซึมได้ดี เพราะโครงสร้างยังไม่ถูกทำลาย มีความสมบูรณ์ใกล้เคียงกับที่ร่างกายสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ เนื่องจากใช้กระบวนการสกัดที่ไม่ใช้ความร้อน จึงช่วยในกระบวนการสังเคราะห์ข้อกระดูกอ่อน โดยเสริมสร้างคอลลาเจนไทพ์ทูให้แก่ข้อต่อและกระดูกอ่อน จึงสามารถช่วยป้องกันและรักษาอาการโรคข้อเสื่อม ข้ออักเสบได้ดี
4. แอนโทไซยานิน (Anthocyanins)
เป็นสารให้สีตามธรรมชาติที่จัดอยู่ในกลุ่มฟลาโวนอยด์ พบได้ในกลุ่มผักและผลไม้ที่มีสีแดง ม่วง และน้ำเงิน ได้แก่ บลูเบอร์รี่ สตอเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ เชอร์รี่ และมะเขือม่วง แอนโทไซยานินมีประโยชน์ในการช่วยลดกระบวนการอักเสบของข้อและกระดูก เนื่องจากแอนโทไซยานินช่วยต้านอนุมูลอิสระ โดยจากผลงานวิจัยพบว่าแอนโทไซยานินมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซีและอีถึง 2 เท่า จึงสามารถช่วยลดการอักเสบที่เกิดขึ้นจาก C-reactive protein ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อการอักเสบของร่างกาย เมื่อการอักเสบลดลงอาการปวดข้อและกระดูกจึงดีขึ้นด้วย
แม้ว่าเราเข้าสู่วัย 40+ ก็หมดห่วงเรื่องกระดูกและข้อได้ เพียงแต่ใส่ใจกับอาหารที่รับประทาน สำหรับผู้ที่รับประทานอาหารไม่ค่อยลงหรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ แอดมินอยากแนะนำ M TALE CALLAGEN ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพรีเมี่ยมสำหรับบำรุงกระดูกและข้อ ผลิตจากวัตถุดิบที่มีส่วนช่วยบำรุงกระดูกและข้อคุณภาพดีที่สุด เพื่อแก้ปัญหากระดูกและข้อโดยเฉพาะ
แหล่งอ้างอิง
1. Arthritis. https://www.arthritis.org/diseases/more-about/calcium-needs-for-people-with-arthritis. Access online: 15 March 2021.
2. Craigcgreenemd. https://www.craigcgreenemd.com/blog/eight-essential-nutrients-for-bone-and-joint-health. Access online: 15 Mar 2021.
3. Ncbi. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7222752/. 10 April 2021.
4. Nutrition. https://www.nutrition.org.uk/nutritionscience/health-conditions/bone-and-joint-health.html. Sep 2018.
5. Pubmed. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/31780006/. 22 Aug 2019.
แคลเซียมผสมคอลลาเจนบำรุงกระดูก บำรุงข้อต่อ บำรุงผิว CALLAGEN