ลดอาการอักเสบ บำรุงข้อ และป้องกันโรคกระดูกพรุน ด้วยสารสกัดงาดำ

5 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

งาดำ (Black sesame seeds) เป็นพืชที่มีประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพ และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง งาดำอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย ที่เหมาะสำหรับหญิงวัย 30+ และวัยสูงอายุ เช่น วิตามินบี แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม สังกะสี เหล็ก ทองแดง และฟอสฟอรัส เป็นต้น งาดำควรรับประทานเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพราะจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยบำรุงสายตา ลดอาการวัยทอง และช่วยให้ข้อแข็งแรง

งาดำ ช่วยบรรเทาอาการปวดข้ออักเสบรูมาตอยด์ เนื่องจากทองแดงที่อยู่ในงาดำมีฤทธิ์ช่วยต้านอาการอักเสบ บรรเทาอาการข้ออักเสบ ข้อเสื่อม และลดอาการปวดข้อจากโรครูมาตอยด์ งาดำประกอบด้วยสารฟีนอลเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสารในกลุ่มลิกแนน ได้แก่ สารเซซามิน เซซามอล และเซซาโมลิน โดยจากการศึกษาพบว่า สารเซซามินในงาดำมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคข้อเสื่อม โดยสารเซซามินมีฤทธิ์ในการยังยั้งสารทำลายกระดูกอ่อนอย่างมีนัยสำคัญ โดยเพิ่มความหนาของกระดูกอ่อน ลดการสูญเสียและเพิ่มปริมาณการสร้างคอลลาเจน (Collagen) และโปรทีโอไกลแคน (Proteoglycans) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูกอ่อน นอกจากนี้ งาดำสามารถกระตุ้นยีน เพื่อเพิ่มปริมาณเอนไซม์ที่ใช้ในการสร้างกระดูกอ่อนได้อีกด้วย

งาดำ ประกอบด้วยทองแดงจึงมีส่วนช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ซึ่งสำคัญต่อการเสริมสร้างเนื้อเยื่อ บำรุงข้อต่อ กระดูกอ่อน และหลอดเลือดให้แข็งแรง งาดำช่วยป้องกันการเกิดเส้นเลือดแข็งตัว ช่วยขยายหลอดเลือด ส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดทั้งโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง และป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน

งาดำ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล เนื่องจากอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งเป็นไขมันชนิดดีที่ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอล น้ำมันงาช่วยให้ระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ และไขมันชนิดไม่ดีในเลือดลดลงได้มากกว่าน้ำมันมะกอกอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งส่งผลให้ระดับไขมันดีในเลือดสูงขึ้นอีกด้วย

จากงานวิจัยพบว่า งาดำสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ดี จากการทดสอบประสิทธิภาพของน้ำมันงา เมื่อใช้ร่วมกับยารักษาเบาหวานไกลเบนคลาไมด์ (Glibenclamide) พบว่า เมื่อรับประทานสารสกัดน้ำมันงาร่วมกับยาไกลเบนคลาไมด์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ได้ดีกว่าการใช้ยาไกลเบนคลาไมด์เดี่ยว ๆ โดยส่งผลให้ร่างกายมีประสิทธิภาพในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้มากขึ้น และปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

นอกจากนี้ งาดำมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ลดการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ช่วยให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึงอย่างเป็นธรรมชาติ งาดำมีสารอาหารที่ช่วยซ่อมแซมและบำรุงผิว ทำให้ผิวไม่เหี่ยวแห้ง ช่วยบำรุงเส้นผมให้ดกดำเงางาม แข็งแรง ป้องกันการเกิดผมหงอก ช่วยให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ดี ช่วยลดความเครียด บำรุงระบบประสาทและสมอง, งาดำควรรับประทานตั้งแต่วัยรุ่น หรือวัย 20+ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ งาดำมีธาตุเหล็กในปริมาณสูงจึงช่วยบำรุงเลือด กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว จึงลดความเสี่ยงในการเป็นหวัด งาดำประกอบด้วยวิตามินบี จึงสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคเหน็บชา ตะคริว นอกจากนี้ งาดำยังประกอบไปด้วยทริปโตเฟน (Tryptophan) ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น ช่วยบำรุงสายตา

งาดำอุดมไปด้วยแคลเซียมและสังกะสี จึงเป็นแหล่งแคลเซียมที่สำคัญ เนื่องจากให้แคลเซียมที่สูงกว่านมวัวถึง 6 เท่า จึงสามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก เพิ่มมวลกระดูก ป้องกันการเกิดโรคกระดูกเปราะ ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนในผู้หญิงวัยทองได้อย่างมีประสิทธิภาพ งาดำจึงเป็นแหล่งแคลเซียมอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับผู้ที่ไม่ชอบดื่มนมหรือมีอาการท้องเสียเมื่อดื่มนม นอกจากนี้ งาดำยังประกอบด้วยวิตามินอี ที่มีส่วนสำคัญในการบำรุงผิวพรรณให้นุ่มชุ่มชื้น

การรับประทานงาดำอย่างสม่ำเสมอมีผลช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้สุขภาพร่างกายโดยรวมแข็งแรงมากขึ้น M TALE CALLAGEN ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารระดับพรีเมี่ยม เหมาะสำหรับหญิงวัย 40+ ผลิตจากงาดำแท้ 100% จึงมั่นใจได้ในคุณภาพ