การดูแลบำรุงรักษากระดูก ข้อ อย่างยั่งยืน

          เนื่องจากร่างกายคนเราต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา  ไม่ว่าจะยืน  เดิน  นั่ง  นอน  เมื่อมีการใช้งานจึงทำให้ร่างกายสามารถเกิดความผิดปกติขึ้นได้ง่ายกว่าระบบอื่น ๆ  คนส่วนใหญ่มักจะละเลยอาการปวดที่เกิดตามกระดูกและข้อต่าง ๆ ของร่างกาย  โดยมักคิดว่าเป็นเพียงอาการปวดที่เกิดขึ้นตามอายุที่มากขึ้นหรือบาดเจ็บจากการใช้งาน  จึงละเลยและคิดว่าทานยาแก้ปวดเดี๋ยวก็หาย  อย่างไรก็ตาม  อาการปวดข้ออาจหายไปเพียงชั่วคราวเท่านั้น  เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับการรักษาที่ต้นเหตุ  เมื่อเวลาผ่านไป  อาการปวดข้อก็กลายเป็นปวดเรื้อรังที่มีความรุนแรงมากขึ้น  และนำความผิดปกติของกระดูกและข้ออย่างถาวร  วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับความผิดปกติของกระดูกและข้อที่พบได้บ่อย ๆ  รวมถึงวิธีดูแลตนเองค่ะ

1. โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis)

          โรคข้อเสื่อมเป็นโรคยอดฮิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัย 40+  เนื่องจากร่างกายมีการใช้งานข้อมายาวนาน  และร่างกายเกิดความเสื่อมตามอายุที่มากขึ้น  นอกจากนี้  การใช้งานข้อเข่าที่หนักไป  อุบัติเหตุต่าง ๆ  หรือแม้แต่น้ำหนักตัวที่มากเกินไปก็เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคข้อเสื่อมได้ง่ายขึ้น

อาการ  ในระยะเริ่มต้นจะมีอาการปวดสัมพันธ์กับการใช้งาน  ปวดมากขึ้นขณะใช้งานข้อนั้น ๆ  ข้อฝืด  มีเสียงดังเวลาเคลื่อนไหวข้อ  หากกระดูกอ่อนเริ่มสึกกร่อนมากขึ้น  ข้อจะมีการอักเสบร่วมกับเกิดการโค้งงอ  เหยียดงอได้ไม่สุด  ระยะรุนแรง  ข้อจะหลวม  ข้อโก่งงอ  ผิดรูปชัดเจน  เวลาเดินต้องกางขากว้างขึ้น  กล้ามเนื้อรอบข้อลีบเล็กลง  ขณะลุกขึ้นจากท่านั่งจะมีอาการปวดที่รุนแรง

การดูแลตนเองเพื่อหลีกเลี่ยงและบรรเทาอาการโรคข้อเสื่อม

- หลีกเลี่ยงการทำให้ข้อบาดเจ็บซ้ำ ๆ  หรือการกระทบกระแทกข้อบ่อย ๆ

- ออกกำลังกายข้ออย่างสม่ำเสมอ  เนื่องจากจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อรอบข้อแข็งแรงขึ้น

- ในผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนควรลดน้ำหนัก

- รับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนช่วยบำรุงกระดูกและข้อ  รวมถึงสารสกัดช่วยลดการอักเสบ เช่น  อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของ “ยูซีทู” (คอลลาเจนไทป์ทู)  สารสกัดจากเปลือกสนธรรมชาติ  เป็นต้น

2. โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis)

          โรคกระดูกพรุน  เป็นโรคที่กระดูกมีความหนาแน่นของเนื้อกระดูกลดน้อยลง  มีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างของกระดูก  ทำให้กระดูกไม่สามารถรับน้ำหนักหรือแรงกดดันได้ตามปกติ  ทำให้กระดูกหักง่ายกว่าปกติ  ตำแหน่งที่พบกระดูกหักบ่อย  ได้แก่  กระดูกที่รับน้ำหนักบ่อย ๆ  เช่น  กระดูกสันหลัง  กระดูกสะโพก  และกระดูกข้อมือ  โดยโอกาสการหักพบว่ามีโอกาสมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น

อาการ  ในระยะเริ่มแรกคนส่วนใหญ่มักไม่มีอาการใด ๆ  ทำให้กว่าจะทราบก็อาการหนักจนเกิดภาวะกระดูกหักและทำให้เกิดภาวะติดเตียงได้  ดังนั้น  จึงแนะนำให้ผู้ที่มีอายุมากทำการตรวจสุขภาพและมวลกระดูกอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลตนเองเพื่อหลีกเลี่ยงและบรรเทาอาการโรคกระดูกพรุน

- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

- ทานอาหารที่มีประโยชน์  โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลเซียมสูง  เช่น  นม  น้ำเต้าหู้  ผักใบเขียว  ปลาเล็กปลาน้อย  จะช่วยป้องกัน  ชะลอ  และลดความรุนแรงของโรคกระดูกพรุนได้

- รับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนช่วยบำรุงกระดูก  เช่น  ทรูแคล (TRUCAL^®) แร่ธาตุแคลเซียมจากน้ำนมธรรมชาติ  เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกเป็นประจำ

3. โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท (Herniated disc)

          โรคนี้มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุที่อายุมากขึ้น  อันเนื่องมาจากความเสื่อมสภาพของข้อกระดูกสันหลังทรุดตัวลง  และไปกดทับเส้นประสาท  รวมไปถึงการเกิดกระดูกงอกหรือหินปูนที่เกิดขึ้น  จนทำให้ไปทับเส้นประสาท

อาการ  ปวดหลังบริเวณเอวส่วนล่าง  อาจมีอาการที่หลังเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง  มักมีอาการในท่านั่ง  หรือมีการนั่งงอตัวไปทางด้านหน้า  ซึ่งเป็นท่าที่หมอนรองกระดูกได้รับแรงกดทับมากที่สุด  นอกจากนี้  ยังมีอาการแสดงที่ขาได้ 3 แบบ  คือ  ปวด  ชา  หรือการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ

การดูแลตนเองเพื่อหลีกเลี่ยงและบรรเทาอาการโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก

- การออกกำลังกายในช่วงที่ยังเป็นไม่มาก  แต่หากอาการหนักขึ้นมาอีกก็ต้องทำกายภาพบำบัด

- รับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนช่วยบำรุงกระดูก  ป้องกันการเสื่อมสภาพของข้อกระดูกสันหลังทรุดตัวลง ได้แก่  ทรูแคล (TRUCAL^®) เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก

          นอกเหนือจากการดูแลตนเองด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  และรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะแล้ว  เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร M TALE CALLAGEN  ที่ออกแบบมาสำหรับบำรุงกระดูกและข้อโดยเฉพาะ  เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย  โดยเฉพาะวัย 40+  ที่ร่างกายเริ่มมีความเสื่อมของกระดูกและข้อตามธรรมชาติ  M TALE CALLAGEN  ประกอบไปด้วยทรูแคล (TRUCAL^®)  แร่ธาตุแคลเซียมจากน้ำนมธรรมชาติคุณภาพเยี่ยม  นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา  มีแร่ธาตุสำคัญ 6 ชนิด ได้แก่  แคลเซียม  แมกนีเซียม  โพแทสเซียม  ฟอสฟอรัส  สังกะสี  และทองแดง  “UC2 (ยูซีทู)”  คอลลาเจนชนิดที่ 2  นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา  ช่วยซ่อมแซมและบำรุงข้อ  ลดการอักเสบของข้อ  โดยเร่งให้ร่างกายสร้างเซลล์ใหม่ที่บริเวณข้อเพิ่มขึ้น  และออกฤทธิ์ป้องกันเอนไซม์ที่ทำลายข้อ  ช่วยลดอาการปวดข้อ  และช่วยให้ข้อเคลื่อนไหวได้สะดวก  นอกจากนี้  สารสกัดจากเปลือกสนธรรมชาติยังช่วยลดการอักเสบของข้อ  และลดการทำลายกระดูกได้อีกด้วย

เอกสารอ้างอิง
1. Aapmr. https://www.aapmr.org/about-physiatry/conditions-treatments/pain-neuromuscular-medicine-rehabilitation/degenerative-joint-disease. Accessed 23 May 2021.
2. Encyclopedia Britannica. https://www.britannica.com/browse/Bone-Diseases#:~:text=Metabolic%20bone%20disease%2C%20any%20of,of%20bone%2C%20and%20fibrous%20dysplasia. Accessed 23 May 2021.
3. Medlineplus. https://medlineplus.gov/jointdisorders.html. Accessed 23 May 2021.
4. Medlineplus. https://medlineplus.gov/bonediseases.html. Accessed 23 May 2021.
5. Sokoloff, Leon. "Joint disease". Encyclopedia Britannica, 24 Aug. 2020, https://www.britannica.com/science/joint-disease. Accessed 23 May 2021.