
โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว จึงไม่เกิดความตระหนักระมัดระวังความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเป็นโรคที่ใกล้ตัวมากขึ้นทุกที โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนทำงานออฟฟิศที่นั่งอยู่กับที่นาน ๆ ไม่ค่อยได้ขยับร่างกายไปไหน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท สาเหตุ วิธีสังเกตอาการของโรค และการดูแลตัวเองกันค่ะ
สัญญาณเตือนโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
มีอาการปวดหลังร้าวลงแขน ขา น่อง หรือเท้า อาจมีอาการชาร่วมด้วย อาการปวดเป็น ๆ หาย ๆ ไม่เป็นตลอดเวลา ปวดเฉพาะที่ ปวดเวลายืนนาน ๆ นั่งนาน ๆ หรืออยู่ท่าเดิมต่อเนื่องนาน หากกดตามแนวกล้ามเนื้อจะรู้สึกเจ็บลึก ๆ ปวดเอว ปวดหลังส่วนล่าง และปวดสะโพก หรือกระเบนเหน็บ และมักจะปวดร้าวลงไปที่ต้นขาด้านหลัง ปวดเรื้อรังรักษาไม่หาย
หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้อย่างไร? สาเหตุเกิดจากอะไร?
หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเป็นโรคที่เกิดจากการเคลื่อนของหมอนรองกระดูก เนื่องจากหมอนรองกระดูกเสื่อมจากการใช้งานนาน ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการก้ม ๆ เงย ๆ ยกของหนัก นั่งนาน ๆ หรือออกกำลังหนักเกินไป ทำให้นํ้าในหมอนกระดูกสันหลังปลิ้นออกมาจนไปกดเบียดเส้นประสาทที่อยู่ด้านหลัง หรือการแตกของหมอนรองกระดูก หากหมอนรองกระดูกเคลื่อนออกมา แต่ไม่ได้กดทับรากประสาทจะส่งผลให้มีอาการปวดเพียงอย่างเดียว มีลักษณะอาการปวดเฉพาะที่ เช่น ปวดคอ ปวดเอว ปวดหลัง ปวดสะโพก แต่เมื่อใดก็ตามที่มีการปลิ้นของหมอนรองกระดูก หรือนํ้าในหมอนรองกระดูกแล้วเคลื่อนกดทับรากประสาท ผู้ป่วยจะมีอาการค่อนข้างมาก คือ มีอาการปวดขาร่วมกับมีอาการชา อ่อนแรง โดยเฉพาะบริเวณเท้าและข้อเท้าจะมีอาการอ่อนแรงได้และมักเป็นที่ขาข้างเดียว
โรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทพบมากในใคร
1. กลุ่มผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป เพราะเริ่มมีความเสื่อมของกระดูกสันหลัง หรือหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมอยู่แล้ว พอออกแรงมาก ๆ อาจทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังแตกออกมากดทับเส้นประสาทได้อย่างเฉียบพลัน
2. กลุ่มวัยหนุ่มสาวที่ใช้แรงงาน ชอบออกกำลังกายหนัก ๆ ทำกิจกรรมโลดโผน หรือเคยมีอุบัติเหตุ ทำให้มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บของหมอนรองกระดูกสันหลังได้ง่ายกว่า
3. ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะอ้วนลงพุงจะส่งผลให้หลังต้องรับน้ำหนักมาก ทำให้หลังแอ่นและกระดูกสันหลังส่วนล่างต้องรับน้ำหนักตลอดเวลา หมอนรองกระดูกจึงมีโอกาสเสื่อมหรือแตก ปลิ้นได้ง่ายกว่าคนที่มีรูปร่างผอม
4. ผู้ที่ใช้งานผิดท่า เช่น พนักงานออฟฟิศที่นั่งทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานานโดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ การนั่งหลังไม่พิงพนัก หลังงอ ก้มคอ ทำงานเป็นเวลานาน พักผ่อนน้อย โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป หรือผู้ที่ทำงานก้มๆ เงยๆ ยกของโดยไม่ระมัดระวัง บุคคลที่นั่งขับรถเป็นระยะทางไกล ๆ เป็นประจำ ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงของโรค จึงควรจัดระเบียบท่าทางร่างกายให้เหมาะสม เช่น การยกของ การนั่งที่ถูกวิธี
วิธีการรักษาโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท
1. รักษาโดยการลดน้ำหนัก และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการเพิ่มขึ้น ได้แก่ การยกของหนัก การนั่งท่าเดิมนาน ๆ อาการท้องผูกหรือเบ่งถ่ายอุจจาระแรง ๆ เป็นต้น เนื่องจากปัจจัยดังกล่าวทำให้เกิดแรงดันในหมอนรองกระดูก ทำให้เกิดการแตกของหมอนรองกระดูกตามมา
2. การรับประทานยาต้านการอักเสบกลุ่มต้านอักเสบ (NSAIDS), ยาคลายกล้ามเนื้อ
3. การกายภาพบำบัดและใช้เสื้อพยุงหลัง ช่วยในการลดอาการปวด
4. การผ่าตัด หากผู้ป่วยที่มีอาการปวดมากจนทนไม่ได้ แม้จะรักษาโดยรับประทานยา พักและกายภาพบำบัดเต็มที่แล้วก็ยังไม่สามารถทำงาน หรือใช้ชีวิตได้ตามปกติ
หากท่านใดสงสัยว่าตนเองกำลังประสบปัญหา มีอาการปวดหลัง หรือมีภาวะเสี่ยงว่าจะเป็นโรคหมอนรองกระกดูกทับเส้นประสาท ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการตรวจเช็คร่างกายด้านกระดูกสันหลังโดยตรง เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย
M TALE CALLAGEN ผลิตภัณฑ์สำหรับวัย 40+ ประกอบด้วยทรูแคล คอลลาเจน สารสกัดจากเปลือกสนธรรมชาติ สารสกัดจากองุ่น ฯลฯ วิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่ร่างกายต้องการ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี และทองแดง
จึงมีส่วนช่วยและบำรุงข้อและกระดูกสันหลัง ลดการอักเสบ โดยเร่งให้ร่างกายสร้างเซลล์ใหม่ที่บริเวณหมอนรองกระดูกเพิ่มขึ้น ช่วยให้ข้อเคลื่อนไหวได้สะดวก M TALE ขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมสุขภาพทุกเพศทุกวัย โดยแนะนำให้รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะในปริมาณที่เหมาะสม ออกกำลังกายเหมาะสมกับวัย ดูแลตนเองไม่ให้อ้วน ควบคุมอารมณ์และจิตใจให้แจ่มใส หลีกเลี่ยงความเครียด งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ เลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มี อ.ย. รับรองและมีคุณภาพสูง เชื่อถือได้
M TALE CALLAGEN ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากธรรมชาติตัวจริง เพื่อสุขภาพของกระดูกและข้อที่แข็งแรงสำหรับวัย 40+
แหล่งอ้างอิง
แคลเซียมผสมคอลลาเจนบำรุงกระดูก บำรุงข้อต่อ บำรุงผิว CALLAGEN